สื่อยุคใหม่ สื่อแบบไหนตรงใจผู้บริโภค


              ลื่อแบบใหม่ เป็นสื่อที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจากระบบอนาล็อก หรือสื่อดั้งเดิม มาเป็น ระบบดิจิทัล ทำหน้าที่ส่งสารได้หลายอย่างรวมกัน คือ ภาพ เสียง และข้อความไปพร้อมกัน เข่น Internet Website E-Book E-mail เป็นต้น และสามารถตอบสนองความต้องการข้อมลข่าวสารได้อย่างอิสระมากขึ้น

            สื่อดิจิทัลสมัยใหม่มีลักษณะเนื้อหาที่ไม่ผูกติดกับอุปกรณ์ที่ใข้ แต่ผู้ใช่สามารถเข้าถึงเนื้อหานั้นได้จาก อุปกรณ์หลากหลาย เข่น อ่านหนังสือจากอินเตอร์เน็ต ดูภาพยนต์และรายการโทรทัศน์รวมทั้งเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์ ซึ่งคุณสมปติในข้อนี้เป็นผลมาจากการหลอมรวมของสื่อ (Media Convergence) straubhaar และ LaRose (2000) ได้ให้ความหมายของ การหลอมรวมสื่อว่าหมายถึงการเปลี่ยนแปลงอย่าง รวดเร็วไปสู่ยุค สังคมสารสนเทศ (Information Society) เนื่องจากความก้าวหน้า ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และ การสื่อสารโทรคมนาคม ทำให้เกิด การผสมผ
สานกลมกลืนหรือการหลอมรวมกันของสื่อต่างๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ โทรศัพท์ และคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่สามารถ แบ่งแยกความแตกต่างของสื่อเล่นนั้นได้การหลอมรวมของ สื่อ (Media Convergence) ทำให้เกิดบริการใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี ดังกล่าวอย่างมากมายข้อมูลที่ส่งผ่านสื่อดิจิทัล สมัยใหม่ มีทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และข้อวาม ซึ่งถูกบีบอัดไว้ใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลน้อย จึงสามารถ เก็บเนื้อหาและข้อมูลไว้โนอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก เข่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และทรัมไดรฟขนาดเล็ก การเข้าถึงข้อมูล ของสื่อทำได้ง่ายและรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบที่ไม,เป็นเส้นตรง คือการเข้าถึงได้ในทุกช่วงของเนื้อหา และสามารถข้ามไปยังช่วงต่างๆ ได้ เช่น การดูภาภพยนตร์ไม,จำเป็นต้องดูจากต้นจนจบเรื่อง แต่สามารถเลือกดูได้ ในตอนและฉากที่ผ้ชมต้องการการจัดการข้อมูลและเนื้อหาสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว สื่อใหม่กับผู้รับสาร
            ผู้รับสารในยุคหลังโพสโมเดิร์น ผู้รับสาร มักใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอเป็นหลัก ทั้งในการทำงานและในด้านการ ใช้ชีวิต ปล่อยตัวตนให้อยู่ในโลกโซเชียลมากกว่าชีวิตจริงเสียอีก อย่างเช่นโปรแกรมที่เช้าถึงโลกโซเชียลที่มีบทบาท มากในยุคนี้ อย่างเช่น เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์และอินตราแกรม ที่แสดงให้เห็นถึงการสร้างตัวตนใหม่ ภาพลักษณโหม' หรือแม้แต่การหลบนี้ตัวเองออกไปจากโลกแห่งความเป็นจริง เข้าสูโลกของภาพลวงตา ที่คิดไปว่าเป็นจริง ผู้รับสาร ในยุคนี้มักมีการให้ความสำคัญกับอารมณ์ความรู้สึกและภาพลักษณ์ของตนเองมากเป็นพิเศษ ผู้รับสารในยุคนี้ นอกจากนี้ยังเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การชมแบบมัลติสกรีน "4 Screen จึงเป็นนวัตกรรม ที่เข้ามามีบทบาทใน ชีวิตประจำวัน โดยผู้ใช้สื่อบริโภคสื่อผานหน้าจอทั้ง 4 ของ 4Screen ได้แก่ หน้าจอทีวีหน้าจอคอมพิวเตอร์หน้าจอ แท็บเล็ต และหน้าจอมือถือในรูป แบบ Multi-Screen เพื่อเชื่อมโยงไปสูโลกออนไลน์ซึ่งแต่ละหน้าจอมีคุณสมบัติที่ แตกต่างกนั ขึ้นอยูกับความต้องการของผู้ใช้งาน จากความกาวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสารผู้รับสาร จึงเปลี่ยน บทบาทจาก"ผู้ที่คอยรองรับข่าวสาร" (Passive Audience) มาเป็น "ผู้แสวงหา ข่าวสาร"(Active Seeking) เพื่อ ตอบสนองความพึงพอใจของตนเองในโลกของสังคมยุค สารสนเทศ (InformationSociety) ที่เกิดจากการ ผสมผสานกลมกลืนหรือการหลอมรวมกัน ของสื่อต่างๆ เช้าด้วยกัน โดยหลอมรวมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีอินเทอร์ฌ็ต เทคโนโลยีสื่อสารมวลชนทั้งวิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์ภาพยนตร์สื่อบันเทิง เพลง เข้าด้วย กนกลายเป็นยุคหลอมรวมสื่อขึ้น (Media Convergence) กลายเป็นสื่อใหม่ (New Media) ที่ผู้ใช้มีเสรีภาพสูงใน การกำหนดเนื้อหา และรูปแบบการใช้ประโยขน่ ผานทาง, Social Network บนโลกออนไลน์" (สุภารักษ์ จู ตระกูล. (2557) 4 SCREEN กับการแสวงหาข่าวสารในยุคหลอมรวมสื่อ) จากการที่เทคโนโลยีการสื่อสารที่มี หลากหลายจอให้เลือกใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน "เด็กวัยรุ่นไม่ดูโทรทัศน์ แบบเฟิร์สกรีน (First Screen) แต่ดูจอที่สอง (Second Screen) เข่น ผ่านสมาร์โฟนหรือแทปเล็ต แต่มาวันนี้ กลายเป็นว่า ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเองก็ดูผ่านจอที่สองด้วย เพราะลูกหลานในบ้านข่วยสอนให้ใช้เทคโนโลยีสามารถดู ย้อนหลังได้Prime Time กลายเป็นMy Time เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ส่งผลต่อการวางแผนการโฆษณา กระทบมาก และเร็วกว่าที่คิด" (ศิวะพรชมสุวรรณ, การสื่อสารระหว่างบุคคล, 1 มีนาคม 2559)
            การเข้าถึงผู้รับสาร ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งเนื้อหาเพื่อให้เช้ากับรสนิยม ด้วยพื้นฐานจากพฤติกรรมผู้รับสาร ปรับให้เป็นไปตามวัฒนธรรมและความหลากหลายของผู้บริโภค โดยใข้เทคโนโลยีให้เกิดประโยขน์คือเผยแพร่สื่อ แบบดิจิทัลเพื่อ,ขยายเนื้อหา'ไปสู่ผู้'บริโภค ในฐานะของผู้ผลิตสื่อ อินเตอร์เน็ตที่คาดการว่าจะนำมาเป็นเครื่องมือใน การพัฒนาสื่อแบบใหม่นี้ การผลิตสื่อเพื่อส่งสารจึงจำเป็นต้องมีความรู้ด้านดิจิทัล และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา จาก ช่องทางเทคโนโลยีใหม่ๆ
   
            หากพิจารณาว่าการสื่อสาร การตลาดในปัจจุบันนี้ มีความสอดคล้องกับความเป็น มายาคติ (Mythologies) คือ การสื่อความหมายด้วย คติความเชื่อทางวัฒนธรรมที่ถูกกลบเกลื่อนให้เป็นที่รับแสมือนว่าเป็น ธรรมชาติ โดยที่มายาคตินั้นมิได้ปิดบัง อำพรางสิ่งใดทั้งสิ้น ทุกอย่างปรากฏต่อหน้าต่อตาเราอย่างเปิดเผย แต่เรา ต่างหากที่คุ้นเคยกับมันเสียจนไม่ทัน 4 สังเกตว่ามันเป็นสิ่งประกอบสร้างทางวัฒนธรรม เรานั่นเองที่ "หลง" คิดไป ว่าค่านิยมที่เรายึดถืออยู่นั้นเป็น ธรรมขาติหรือเป็นไปตามสามัญสำนึก (โรล็องด์ บาร์ตส์ อ้างถึงในวรรณพิมล อังคคิริสรรพ, 2551) เข่นเดียวกับการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้ ที่ส่งผลให้ผู้รับสารเข้าไปอยู่ในโลกเสมือ จริงมากขึ้นทุกที โซเขียลมืเดียทุกรูปแบบในสังคมปัจจุบันมีพลังมากขึ้น ในโลกดิจิทัลที่กำลังถูกตั้งนิยามอยู่เนืองๆ ว่าไร้ลำดับชั้น ไร้พรมแดน และลื่นไหล เมื่อผู้รับสารในยุคสื่อใหม่บริโภคเทคโนโลยีเป็นหลัก เทคโนโลยีสร้างโลกที่คล้ายกับความเป็นจริงมากขึ้นตลอดเวลาอย่างไม่หยุดนิ่ง การเข้าถึงผู้รับสารในโลกยุคนี้จึงจำเป็นต้องไร้ลำดับขั้น ไร้พรมแดน และลื่นไหลตามไปด้วย การหลอมรวมเทคโนโลยีสื่อ เป็นการพัฒนาเข้ามาใกล้กันของเทคโนโลยี มี ลักษณะเป็นการวิวัฒนาการมาพบกันของเทคโนโลยี ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ เทคโนโลยีการแพร่ภาพและ เทคโนโลยี การพิมพ์ และเทคโนโลยี โดยมีเทคโนโลยีลื่อสารโทรคมนาคม

            ยุคของข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลมากมายที่ผูรับสารรับมันเข้าไปตลอดวันทั้งวัน มีมากมายจนข้อมูลเกิดการ OVERLOAD หากเราเปลี่ยนการลื่อสารด้วยข้อความทีละมากๆ อย่างเข่นหนังสือ หรือเอกสารออนไลน์ทั้งหลายก็ ตาม และลองคิดในมุมของผู้รับสารในยุคนี้ที่ชีวิตเร่งรีบ การมีสมาธิที่ลดลงจากการลื่อสารยุคใหม่ สื่อแบบไหนที่ เข้าถึงผู้บริโภคได้ดี ในเมื่อธรรมขาติของการเสพข้อมูลในยุค
สมัยนี้คือการ กวาดสายตาไปเร็ว ๆ บนหน้อจอ ไม,ว่า จะจอเดียว หรือหลายจอก็ตามที
Infographic จึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีตัวเลือกหนึ่งในการเข้าถึงผู้คน
Infographic ทั้งภาพนิ่ง และแบบ Motiongraphic คือ graphic ที่เคลื่อนไหวได้
"Info" (ข้อมูล) กับ "graphic" (ภาพ) Infographic
จึงเป็นการสื่อสารด้วยภาพและข้อความซึ่งคุณสมบ้ติของมันคือ สวย และสื่อ การลื่อสารด้วยภาพนั้น มีมานานแล้วหากท้าวความไปถึงสมัยอียิปต์โบราณ Infographic เป็นการตัดข้อมูลที่ไม,จำเป็นออกจากข้อมูล มากมายบนเอกสารนั้นเหลือเพียงสิ่งที่ผู้รับจำเป็นต้องรู้จริง ๆ เท่านั้น เพื่อความน่าสนใจ ง่ายต่อการจดจำ และทำ ความเข้าใจได้ง่าย

ตัวอย่างอินโฟกราฟฟิกที่ไม่ใช่แค่เข้าใจง่าย  INFOGRAPHIC AID BLANKET
เป็นอินโฟกราฟฟิกที่จัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ พยาบาล
เป็นบุุคคลที่ไม่มีความรู้ในการช่วยชีวิตฉุกเฉิน สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้ด้วยตัวเอง
โดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ และไม่ต้องกลัวว่าจะพลาด
เพราะเจ้าแผ่นนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินนอนราบเพื่อหาตำแหน่งจุดสำคัญโดยไม่ต้องกลัวพลาด


ตัวอย่างอินโฟกราฟฟิก ที่พบได้ในโลกโซเชียลทุกวันนี้  
เป็นการย่อยข้อมูลมากๆให้ผู้รับเข้าใจได้ง่ายๆ
ด้วยข้อความสำคัญเพียงหยิบมือ กับรูปภาพที่สื่อความหมาย


http://oknation.nationtv.tv/blog/Oztoba6Girl/2017/05/11/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น