แฟนพันธุ์แท้โฆษณา

กิจกรรมที่ 6  แฟนพันธุ์แท้โฆษณา    เวลา 45  นาที
วัตถุประสงค์
1.      เพื่อให้นักเรียนรู้จักกลยุทธ์ทางโฆษณา
2.      เพื่อชี้ให้นักเรียนเห็นว่ากลยุทธ์ทางโฆษณาสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อตัวเรา โดยการสร้างความจดจำให้เกิดขึ้น
อุปกรณ์
1.      ภาพสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ที่เน้นการใช้กลยุทธ์ตัวแทนโฆษณาจำนวนหลายภาพ
2.      ข้อความ คำขวัญโฆษณา (Slogan) ที่นักเรียนคุ้มเคย
3.      ตรายี่ห้อสินค้า 5-6 ชิ้น
4.      แผ่น CD ที่บรรลุเสียงจากโฆษณา
5.      กระดาษ A4 และปากกา
ขั้นตอนกิจกรรม
1.         แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 5-6 คน แจกกระดาษ A4 ปากกา
2.        ผู้นำตั้งคำถามเกริ่นก่อนเข้าสู่การแข่งขัน “แฟนพันธุ์แท้โฆษณา” ตัวอย่างคำถาม นักเรียนทราบหรือไม่ว่าโฆษณาใช้วิธีการใดบ้างในการกระตุ้นทำให้เราจดจำสินค้า ได้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
3.        เริ่มการแข่งขัน
รอบที่ 1
ผู้นำเปิดป้ายสื่อโฆษณา (Print ad) ที่เน้นการใช้กลยุทธ์ตัวแทนโฆษณา ชูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มดูจนทั่วแล้วคว่ำลง จากนั้นให้แต่ละกลุ่มเขียนชื่อยี่ห้อสินค้าที่ตัวแทนโฆษณาในภาพนั้น ๆ เป็นตัวแทนในเวลาที่กำหนดทีละป้าย จนครบจำนวนที่กำหนด
รอบที่ 2
ผู้นำอ่านคำขวัญโฆษณา (Slogan) ให้นักเรียนฟังทีละข้อความ จากนั้นให้นักเรียนเขียนชื่อยี่ห้อสินค้า เจ้าของคำขวัญโฆษณานั้น ๆ ในเวลาที่กำหนดจนครบจำนวนที่กำหนด
รอบที่ 3
มีเสียงบางส่วนจากโฆษณาให้นักเรียนฟังทีละเสียง จากนั้นให้นักเรียนเขียนคำตอบลงใน กระดาษาว่านี่คือโฆษณาอะไรจนครบจำนวน
*ในแต่ละรอบก่อนการแข่งขันจะมีการบอกชื่อ ผู้สนับสนุนรายการด้วย*
รอบที่ 4
มี 1 คำถามให้นักเรียนเขียนคำตอบว่า ตลอดดการแข่งขันมีผู้สนับสนุน รายการกี่ยี่ห้อ อะไรบ้าง
4.        จบการแข่งขันผู้นำเฉลยคำตอบพร้อมให้คะแนน กลุ่มใดมีคะแนนมากที่สุดคือ แฟนพันธุ์แท้โฆษณา
สรุปกิจกรรม
            ผู้นำเปิดประเด็นย้อนกลับไปยังคำถามเดิมก่อนการแข่งขันเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนว่าจากการแข่งขัน ทำให้เห็นได้ว่าโฆษณามีวิธีการมำให้เราจดจำสินค้าได้หลายวิธี เช่น
1.      การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อเป็นตัวแทนของสินค้า สาเหตุที่เลือกใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงเพราะง่ายต่อการโน้มน้าวและการจดจำสินค้าได้ง่าย
2.      คำขวัญโฆษณาเป็นข้อความสั้น ๆ บอกสรรพคุณ หรือลักษณะบางอย่างของสินค้าเป็นข้อความที่ง่ายต่อการจดจำ
3.      โฆษณาแฝงเป็นการโฆษณาที่ไม่ได้มุ่งเน้นในการโฆษณาโดยตรง แต่แฝงอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น  รายการเกมโชว์ ละคร ภาพยนตร์ ข่าว เป็นต้น
4.      เพศ เป็นกลยุทธ์ที่นิยมใช้กันมากเพียงแค่ให้ผู้แสดงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือแสดงในลักษณะยั่วยวน ก็สามารถทำให้ผู้ชมจดจำสินค้าได้เช่นกัน
5.      การส่งเสริมการขาย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมกันมากทั้งการลด/แลก/แจก/แถม/ส่งชิ้นส่วนชิงโชค เพราะเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนมาก
6.      การโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เป็นการมุ่งขายเฉพาะกลุ่ม เช่น แชมพูที่ผลิตมาเพื่อผู้ที่มีผมเสียและแตกปลาย ผมเสียขาดการบำรุง ผมเสียจากการทำสี  ผมเสียจากมลภาวะ เป็นต้น การแบ่งกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนจะช่วยเพิ่มยอดการขายสินค้าให้เพิ่มขึ้น
7.      ใช้สื่อที่หลากหลาย เช่น โทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต ป้ายโฆษณา ใบปลิว ขายตรง ป้ายรถเมล์ ตู้โทรศัพท์ เพื่อให้เข้าถึผู้บริโภคมากที่สุด
8.      บอกสรรพคุณโดยตรง เป็นวิธีการที่บอกถึงสรรพคุณที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ เช่น โฆษณารถยนตร์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
9.      สร้างความรู้สึกที่ให้กับสินค้า เป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกดีต่อสินค้านั้น แม้ว่าสินค้านั้นจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะถูกโฆษณาก็ตาม โดยจะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวที่ดี เช่น การทำดีต่อสังคม มิตรภาพ ระหว่างเพื่อนซึ่งจะพบได้มากในโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์
กลยุทธ์เหล่านี้คือวิธีการกระตุ้นผ่านประสาทสัมผัสเพื่อให้เราจดจำสินค้าและบริการรวมถึงเกิดความต้องการเกินความพอดี (Want) ขึ้น ดังนั้นยิ่งเราจดจำสินค้าและบริการนั้นได้มากเท่าไร นั่นก็หมายถึงการกลายเป็นลูกค้าได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางโฆษณาที่เรามักพบเห็นกันโดยทั่วไป ซึ่งความจริงแล้วโฆษณาย่อมพัฒนาเทคนิควิธีการต่าง ๆ ให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อแข่งขันกับตลาด และเพื่อขายสินค้าของตนเองให้ได้มากที่สุด
ประเมินผล

            นักเรียนสามารถยกตัวอย่างโฆษณา เหตุการณ์ สถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำเสนอได้

ไม่มีความคิดเห็น